จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2562

เทคนิคการขยายพันธุ์มะนาว “ด้วยใบ” ใช้แค่ 1 ต้น แต่ขยายได้เป็นพันๆ กิ่ง!





  "มะนาว" นับเป็นพืชเศรษฐกิจอีกอย่างที่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันมะนาวมีความต้องการทางตลาดสูงและราคาก็ดี โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้งนั้นมะนาวมักจะมีราคาแพงเอามากๆ เลยทีเดียว
     วันนี้จึงขอนำเสนอ เทคนิคการขยายพันธุ์มะนาว “ด้วยใบ” ตามแบบฉบับของ ครูติ่ง ณ ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง ธ.ก.ส. บ้านเกาะเนียง จังหวัดสตูล มาให้ลองได้ศึกษาและลองทำดู ซึ่งสามารถขยายพันธุ์มะนาวได้ทีละมากๆ อีกด้วยค่ะ
     วัสดุอุปกรณ์ที่ต้องเตรียม
1.กิ่งและใบมะนาว ที่ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป
2.กาบมะพร้าว
3.มีดขนาดเล็ก
4.น้ำยาเร่งราก
5.หนังยาง
6.ถุงร้อน
7.ห้องพ่นหมอก(ถ้ามี)
     ขั้นตอนวิธีการทำ
1. นำกาบมะพร้าวมาตัดเป็นท่อนยาวราว 2.5-3 ซม. แล้วนำไปแช่น้ำไว้จนชุ่มจากนั้น เอาค้อนทุบจนกาบมะพร้าวแตกนุ่มขึ้น (ทุบเพื่อทำให้กาบมะพร้าวนุ่มและม้วนเป็นก้อนได้ง่าย)
2. เมื่อได้กาบมะพร้าวที่นุ่มดีแล้ว ให้นำมาห่อม้วนเป็นรูปทรงกลม แล้วรัดหนังยางให้แน่น จากนั้นนำตะปูทิ่มลงไปบริเวณด้านบนของกาบมะพร้าวให้เกิดรู เพื่อลดการเสียดสีเวลานำใบเสียบลงไปและง่ายต่อการเสียบกิ่งมะนาว
3. จากนั้นทำการเตรียมใบมะนาว โดยการตัดใบให้ติดกับก้านด้านบนใบเล็กน้อย ยาวประมาณ 1-1.5 ซม. ดังรูป
4. ขั้นต่อมาตัดใบมะนาวออกให้เหลือเพียงครึ่งใบ การทำแบบนี้จะให้การขยายพันธุ์มะนาวเป็นไปอย่างรวดเร็วและลดภาระการคายน้ำของใบมะนาว
5. จากนั้นทำการกรีดเปลือกหุ้มก้านของใบ วิธีการนี้จะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการออกรากของมะนาว โดยให้ใช้มีดกรีดตามความยาวของก้านมะนาว 1-3 รอย (ขั้นตอนนี้ต้องระมัดระวังอย่ากรีดแรงเกินไปจนทำให้ก้านมะนาวขาดออกจากกัน) หากไม่ทำเช่นนี้รากจะออกเฉพาะที่ปลายรอยตัดเท่านั้น ทำให้ต้นมะนาวที่นำไปปลูกไม่แข็งแรงออกรากน้อย (ขั้นตอนนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่จะเพิ่มพื้นที่ในการออกรากมากขึ้นนั่นเอง)
6. จากนั้นให้นำกิ่งที่กรีดเรียบร้อยแล้ว ไปจุ่มในน้ำยาเร่งราก แล้วเอาไปผึ่งลมให้แห้งสนิท ถ้าไม่แห้งสนิทเมื่อนำไปเสียบในกาบมะพร้าวอาจจะทำให้กิ่งและใบมะนาวเน่าได้
7. เมื่อกิ่งและใบมะนาวแห้งดีแล้ว นำไปเสียบในกาบมะพร้าวที่เตรียมไว้จนมิดก้าน พอเสียบได้ 4 ก้อน ก็ให้นำนำมามัดรวมกันแล้ว ไปจุ่มน้ำให้ชุ่มแล้วใส่ไว้ในถุงร้อน ทำถุงร้อนให้พองออกแล้วมัดปากถุงให้แน่น อย่าให้ใบมะนาวสัมผัสกับถุงร้อนเด็ดขาด ถ้าเกษตรกรท่านใดมีห้องพ่นหมอก สามารถนำพันธุ์มะนาวที่ทำเสร็จเรียบร้อยแล้วเข้าเพาะในห้องพ่นหมอกได้เลย อากาศและความชื้นในห้องพ่นหมอกจะช่วยให้แตกรากเร็วขึ้นและที่สำคัญเพิ่มอัตราการรอดของพันธุ์มะนาวได้มาก
9. เมื่อได้ถุงที่มีก้อนกาบมะพร้าวเสียบใบมะนาวอยู่ด้านในเรียบร้อยแล้ว ให้เอาไปตั้งไว้ใต้ต้นไม้ที่มีร่มเงา ให้โดนแสงบ้างเล็กน้อย เมื่อผ่านไป 1 เดือน จะพบว่ามะนาวจะเริ่มออกรากหรือเริ่มติดตายอด หรือถ้าเป็นมะกรูดจะใช้เวลานานประมาณ 3-4 เดือน จึงจะเริ่มออกรากและติดตายอด ซึ่งถ้าจะให้สมบูรณ์ควรรอทั้งรากและตาออกมาทั้งคู่ จึงเริ่มนำไปลงถุงชำต่อไปได้เลยค่ะ
     ข้อดีในการขยายพันธุ์มะนาวด้วยใบ
     ถึงแม้ว่าเกษตรกรมีพันธุ์มะนาวที่ดี เพียงต้นเดียวก็สามารถขยายพันธุ์มะนาวได้เป็นจำนวนหลายร้อยหลายพันต้นได้ ซึ่งได้ผลผลิตจำนวนมากกว่าการปักชำกิ่มะนาวหรือการขยายพันธุ์มะนาวที่นิยมกัน


ข้อมูลและภาพจาก postnoname


“หมูยอ ตำครก” เนื้อแน่นสมใจอยาก อร่อย ถูกใจ (ซื้อกินมันแพง ทำเองซะเลย)





“หมูยอ ตำครก” เนื้อแน่นสมใจอยาก อร่อย ถูกใจ (ซื้อกินมันแพง ทำเองซะเลย)

สูตรหมูบด 1 กิโล

1. หมูบด 1 กิโล
2. แป้งสาลีเอนกประสงค์ เกือบเต็มถ้วยตวง หรือประมาณ 10 ช้อนโต๊ะแบบพูน
3. ผงเบ้กกิ้งโซดาหรือผงฟู 1 ช้อนชา
4. น้ำตาล 2-3 ช้อนชา
5. น้ำปลา 4-5 ช้อนโต๊ะ
6. พริกไทย 2-3 ช้อนชา
7. รสดีหมู 1/2 ช้อนชา
8. กระเทียมโขลก 1 หัว
9. ใบตองสำหรับห่อหมูยอ/กระดาษฟรอยด์

วิธีทำหมูยอสูตรพิเศษ

1. นำส่วนผสมทั้งหมด ผสมให้เข้ากันกับหมูบด
2. นำหมูบดที่ผสมแล้วไปแช่ช่องฟรีซประมาณ 1 ชั่วโมง
3. นำออกมาตำๆนวดๆกับครก หรือ ปั่นกับเครื่องปั่น (ใครไม่มีเครื่องปั่น ลองตำครกดูนะค่ะ)จนเนื้อแน่นหนึบและเหลวจนเป็นเนื้อเดียวกัน
4. นำไปห่อกระดาษฟรอยด์ หรือ ห่อใบตอง จะได้กลิ่นหอม แล้วนึ่งประมาณ 20-30 นาที เสร็จจร้า
ถ้าใส่ในกล่องพลาสติกเวลาสุกแล้วจะมีน้ำออกมาด้วย ให้รินน้ำออกด้วยนะค่ะ จะได้เก็บไว้ได้นานค่ะ

อีก 1 สูตร จากคุณ tukata001 สมาชิกเว็บไซต์พันทิปดอทคอม

ส่วนผสม หมูยอ
1. หมูบด 1 กิโลกรัม (แนะนำหมูเนื้อล้วน ๆ ก็ดีนะคะ มันแน่นดี)
2. น้ำปลา 3-4 ช้อนโต๊ะ (วันนี้ใช้ตราปู 3 ตัวค่ะ)
3. น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
4. แป้งมันสำปะหลัง 1 ช้อนโต๊ะ
5. ผงฟู 2 ช้อนโต๊ะ
6. พริกไทย 1 ช้อนชา
7. น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำหมูยอ
1. นำเครื่องปรุงทั้งหมดมาผสมกัน คนให้เข้ากันดี (ทำง่ายจริง ๆ)
2. นำหมูบดใส่อ่างผสมแล้วก็เทส่วนผสมของเหลวลงไป นวดให้เข้ากันสัก 5-10 นาที ใครมีเครื่องนวดก็ใช้ได้เลยค่ะ ประหยัดกำลังดี แต่ถ้าไม่มีเครื่องก็ทำได้นะคะ โดยใช้มือนวดค่ะ นวดจนส่วนผสมเข้ากันดี
3. หน้าตาหมูที่นวดได้ที่เป็นแบบนี้ค่ะ
4. เสร็จแล้วนำเข้าเครื่องปั่นได้เลยค่ะ ปั่นให้เนื้อละเอียด เวลาปั่นก็ให้ใส่น้ำแข็งเข้าไปสัก 2 ก้อน แล้วปั่นค่ะ
5. แบ่งปั่นครึ่งหนึ่งก่อนเพื่อไม่ให้แน่นเกินไปเนื้อจะได้เนียน ๆ ค่ะ
6. ปั่นจนเนื้อเนียนตามชอบเลยค่ะ แล้วปั่นอีกครึ่งที่เหลือให้เนียนก็พอค่ะ
7. เสร็จแล้วแนะนำให้ตักส่วนผสมไปเข้าไมโครเวฟสักช้อนนะคะ ชิมรสชาติดูค่ะ ถ้าได้รสตามต้องการก็นำไปห่อได้เลยค่ะ
วิธีห่อหมูยอใบตองแบบง่าย ๆ
1. นำใบตองกว้าง 14×14 นิ้วหรือแล้วแต่ชอบ ตัดชิ้นสี่เหลี่ยมนำมาวางซ้อนกัน 3 แผ่นนะคะ แล้วทาน้ำมันบาง ๆ แผ่นบน
2. ตักส่วนผสมใส่ตรงกลางปริมาณตามชอบค่ะ แล้วก็ห่อตามรูป ตาก็ห่อได้ไม่สวยอะไรนะคะ เอาเป็นว่าห่อตามถนัดค่ะ
3. พยายามทำให้ห่อเป็นทรงกลม ๆ แล้วพับปลายด้านหนึ่งก่อน จับตั้งขึ้นและเขย่าให้ส่วนผสมแน่น ๆ แล้วก็ตัดส่วนใบตองที่เกินออกไป พับมุมซ้าย-ขวาลงมาเป็นทรงสามเหลี่ยมแหลม ๆ แล้วก็พับปิดลงมา ทำเหมือนกันทั้งสองข้างเลยค่ะ
4. ห่อได้รูปตามชอบแล้วก็เอาพลาสติกถนอมอาหารมาห่อใบตองอีกทีเพื่อให้อยู่ทรง ไม่ต้องผูกเชือกให้ยุ่งยาก เพราะว่าผูกไม่เป็นค่ะ ห่อเรียบร้อยตามภาพค่ะ
วิธีห่อหมูยอด้วยกระดาษฟอยล์
1. วิธีนี้ง่ายสุด สะดวกสุด ยิ่งอยู่ต่างประเทศไม่มีใบตองใช้กระดาษฟอยล์ง่ายที่สุด ทำตามภาพเลยค่ะ แต่แนะนำว่าให้ห่อสัก 2 ชั้นค่ะ ที่ตาทำห่อชั้นเดียว เวลานำไปนึ่งสุกแล้วฟอยล์แตกค่ะ
2. ทำได้ตั้ง 4 ก้อน นำใส่ซึ้งนึ่งไฟแรงประมาณ 30 นาที
3. พอครบเวลาหมูยออร่อย ๆ ของเราก็สุกแล้วค่ะ ถึงหน้าตาจะไม่ได้ห่อสวยงามกลมกลึงเหมือนที่เขาขาย แต่รสชาติถูกปาก อร่อยมาก ยิ่งกินตอนร้อน ๆ สุกใหม่ ๆ กินได้ทั้งก้อนเลย หอมพริกไทย รสชาติกำลังดี อยากให้ลองทำกันดูค่ะ จะได้หมูยอ ก้อนโต ๆ ไม่ต้องเจอแต่ใบตองอีกต่อไป ถ้าทำแล้วเหลือสำหรับคนต่างประเทศให้ใส่ช่องแช่แข็งได้เลยค่ะ เก็บได้นาน เวลาจะกินก็เอาออกมาวางอุณหภูมิห้องจนเย็น ก็นำไปทอดหรือนำไปยำ รับรองอร่อยและสะอาดด้วย